Walk my way หรืิอ The Road I Choose to Walk หรืิอ 僕の歩く道 , Boku no Aruku Michi (Romanji)
ขอเปิดบล๊อกด้วยหนังซีรี่ย์ญี่ปุ่นเรื่องนี้ โดยส่วนตัวแล้วไม่ค่อยได้ดูหนังซีรีย์์เลย แต่ตั้งแต่ ทีวีไทย(thai pbs) นำมาฉาย ก็ติดตามเป็นบางเรื่อง แต่ไม่ได้ดูทุกตอน แต่เรื่องนี้กลับต้องรีบมานั่งหน้าจอทีวีทุกตอนไป และก็เที่ยวบอกชาวบ้าน (ทั้งเพื่อนๆ ทั้งพี่ๆ )ให้ติดตามอีกต่างหาก แต่เท่าที่ถามดู บางคนก็มาดูครึ่งๆ กลางๆ ปรากฎว่าดูไม่รู้เรื่อง เราก็มานั่งนึก เออ..นะ คงจะไม่รู้เรื่องจริง เพราะเนื้อหามีการเชื่อมโยงกัน ไปจนถึงความรู้สึกของตัวละคร ลักษณะของตัวละครซึ่งก็คือ เทรุอากิ ที่เป็นออทิสติค
ผู้แสดงเป็นแม่ในเรื่อง แสดงได้ดีมาก แม่่จะคอยให้กำลังใจ ช่วยเหลือในทุกๆเรื่อง ใจเย็น เป็นหลักของครอบครัว
เทรุอากิ เป็นกระจกส่องให้กับหลายๆคนในหนัง ไม่ว่าจะเป็นผู้จัดการสวนสัตว์ เทรุอากิ พูดว่า "เราไม่จำเป็นต้องทำหลายๆอย่างก็ได้ ขอทำเป็นแค่อย่างเดียว แต่ขอให้ทำให้ดี" แม่ของเทรุอากิ สอนไว้
พี่ชายเทรุอากิยังนึกอิจฉาเทรุอากิ ที่เทรุอากิมีความฝันที่จะได้ขี่จักรยาน Bike ยังเข้่าแข่งขันจักรยานระยะทาง 40 กม.อีกด้วย ซึ่งเขานั้นยังไม่มีควมฝันที่จะทำอะไรเลย
หลานชาย ยังต้องทึ่งกับการจำของอาเทรุอากิ ที่สามารถจำรายชื่อผู้ชนะรายการตูเดอฟรองซ์ได้ เทรุอากิซึ่งทำงานในสวนสัตว์ ยังสามารถท่องจำลักษณะของสัตว์ต่างๆได้โดยไม่ผิดเลย จนเพื่อนร่วมงานยังต้องทึ่งกับความสามารถนี้
และที่จะขอกล่าวเป็นคนสุดท้ายก็คือ มิยาโกะ (จัง) ซึ่งเป็นสัตวแพทย์ประจำสวนสัตว์ และเติบโตมากับเทรุอากิ ที่จะเข้าใจพฤติกรรมของเทรุอากิ คอยช่วยเหลือและอธิบายผู้ร่วมงานในสวนสัตว์ให้เข้าใจถึงพฤติกรรมที่เรียกว่าตรงไปตรงมาของเทรุอากิ เช่น เมื่อตอนเทรุอากิเข้าทำงานในสวนสัตว์ใหม่ๆ ผู้ร่วมงานส่งไม้กวาดให้ เพื่อให้กวาดพิ้น โดยไม่กวาดให้ดู เทรุอากิ ก็จะยืนถือไม้กวาดอยู่เช่นนั้น หรือ หั่นแอบเปิ้ลขนาดประมาณ 2 ซม. เทรุอากิก็จะต้องนำไม้บรรทัดมาวางเทียบให้ได้ 2 ซม. เปะๆเลย หรือแม้แต่มิยาโกะ ก็ต้องเจอกับตอนที่ทั้ง 2 คน ถือมันเผาจะมานั่งกินกันที่เก้าอี้นั่งในสวนสาธารณะ แต่มีเศษใบไม้ตกปกคลุมไปทั้งเก้าอี้นั้น เทรุอากิ ยังปัดใบไม้เฉพาะที่ที่ตัวเองจะนั่ง ไม่ปัดให้มิยาโกะด้วย แต่ทั้งหมดที่กล่าวมานี้กลับเป็นความน่ารัก เป็นเสน่ห์ของเรื่องนี้
และอีกอย่างที่หนังเรื่องนี้ใส่น้ำตาล ความหวาน ความน่ารักเข้าไปก็คือ เทรุอากิจะเขียนไปรษณีย์บัตรส่งให้มิยาโกะทุกวัน ไม่เว้นแม้แต่วันที่ทั้งสองคนมาเจอะเจอกัน ( รู้สึก sweet จัง 55) เพราะเทรุอากิ ทำเป็นกิจวัตรประจำวัน
"วันนี้ฉันไปทำงานที่สวนสัตว์ วันนี้มิยาโกะจังมาทานข้าวที่บ้าน"
พอเจอมิยาโกะก็จะบอกว่า "ฉันส่งจดหมายไปแล้วนะ"
มิยาโกะก็จะบอกว่า "ฉันจะรอ"
และในตอนท้ายของเรื่อง มิยาโกะก็คงจะบอกตัวเองว่า (เดานะค่ะ) คนที่เค้าจะอยู่ด้วยได้ ไม่จำเป็นต้องเก่ง หรือต้องเข้าสังคมอย่างคุณคาวาฮาระ แค่คนที่เค้าสามารถให้การดูแลและตัวเองก็รู้สึกสุขใจ และคนนั้นก็ไม่มีพิษมีภัยกับใคร และรักษาสัญญาก็คือ เทรุอากิ
หากใครยังไม่ได้ดูก็พอจะหาดูได้ที่
http://www.thaimtb.com/forum/viewtopic.php?f=71&t=53683&start=0
http://www.thaipbs.or.th/JapanSeries1/
http://movie.sanook.com/drama/drama_15353.php
http://wiki.d-addicts.com/Boku_no_Aruku_Michi
-->
ขอเปิดบล๊อกด้วยหนังซีรี่ย์ญี่ปุ่นเรื่องนี้ โดยส่วนตัวแล้วไม่ค่อยได้ดูหนังซีรีย์์เลย แต่ตั้งแต่ ทีวีไทย(thai pbs) นำมาฉาย ก็ติดตามเป็นบางเรื่อง แต่ไม่ได้ดูทุกตอน แต่เรื่องนี้กลับต้องรีบมานั่งหน้าจอทีวีทุกตอนไป และก็เที่ยวบอกชาวบ้าน (ทั้งเพื่อนๆ ทั้งพี่ๆ )ให้ติดตามอีกต่างหาก แต่เท่าที่ถามดู บางคนก็มาดูครึ่งๆ กลางๆ ปรากฎว่าดูไม่รู้เรื่อง เราก็มานั่งนึก เออ..นะ คงจะไม่รู้เรื่องจริง เพราะเนื้อหามีการเชื่อมโยงกัน ไปจนถึงความรู้สึกของตัวละคร ลักษณะของตัวละครซึ่งก็คือ เทรุอากิ ที่เป็นออทิสติค
ผู้แสดงเป็นแม่ในเรื่อง แสดงได้ดีมาก แม่่จะคอยให้กำลังใจ ช่วยเหลือในทุกๆเรื่อง ใจเย็น เป็นหลักของครอบครัว
เทรุอากิ เป็นกระจกส่องให้กับหลายๆคนในหนัง ไม่ว่าจะเป็นผู้จัดการสวนสัตว์ เทรุอากิ พูดว่า "เราไม่จำเป็นต้องทำหลายๆอย่างก็ได้ ขอทำเป็นแค่อย่างเดียว แต่ขอให้ทำให้ดี" แม่ของเทรุอากิ สอนไว้
พี่ชายเทรุอากิยังนึกอิจฉาเทรุอากิ ที่เทรุอากิมีความฝันที่จะได้ขี่จักรยาน Bike ยังเข้่าแข่งขันจักรยานระยะทาง 40 กม.อีกด้วย ซึ่งเขานั้นยังไม่มีควมฝันที่จะทำอะไรเลย
หลานชาย ยังต้องทึ่งกับการจำของอาเทรุอากิ ที่สามารถจำรายชื่อผู้ชนะรายการตูเดอฟรองซ์ได้ เทรุอากิซึ่งทำงานในสวนสัตว์ ยังสามารถท่องจำลักษณะของสัตว์ต่างๆได้โดยไม่ผิดเลย จนเพื่อนร่วมงานยังต้องทึ่งกับความสามารถนี้
และที่จะขอกล่าวเป็นคนสุดท้ายก็คือ มิยาโกะ (จัง) ซึ่งเป็นสัตวแพทย์ประจำสวนสัตว์ และเติบโตมากับเทรุอากิ ที่จะเข้าใจพฤติกรรมของเทรุอากิ คอยช่วยเหลือและอธิบายผู้ร่วมงานในสวนสัตว์ให้เข้าใจถึงพฤติกรรมที่เรียกว่าตรงไปตรงมาของเทรุอากิ เช่น เมื่อตอนเทรุอากิเข้าทำงานในสวนสัตว์ใหม่ๆ ผู้ร่วมงานส่งไม้กวาดให้ เพื่อให้กวาดพิ้น โดยไม่กวาดให้ดู เทรุอากิ ก็จะยืนถือไม้กวาดอยู่เช่นนั้น หรือ หั่นแอบเปิ้ลขนาดประมาณ 2 ซม. เทรุอากิก็จะต้องนำไม้บรรทัดมาวางเทียบให้ได้ 2 ซม. เปะๆเลย หรือแม้แต่มิยาโกะ ก็ต้องเจอกับตอนที่ทั้ง 2 คน ถือมันเผาจะมานั่งกินกันที่เก้าอี้นั่งในสวนสาธารณะ แต่มีเศษใบไม้ตกปกคลุมไปทั้งเก้าอี้นั้น เทรุอากิ ยังปัดใบไม้เฉพาะที่ที่ตัวเองจะนั่ง ไม่ปัดให้มิยาโกะด้วย แต่ทั้งหมดที่กล่าวมานี้กลับเป็นความน่ารัก เป็นเสน่ห์ของเรื่องนี้
และอีกอย่างที่หนังเรื่องนี้ใส่น้ำตาล ความหวาน ความน่ารักเข้าไปก็คือ เทรุอากิจะเขียนไปรษณีย์บัตรส่งให้มิยาโกะทุกวัน ไม่เว้นแม้แต่วันที่ทั้งสองคนมาเจอะเจอกัน ( รู้สึก sweet จัง 55) เพราะเทรุอากิ ทำเป็นกิจวัตรประจำวัน
"วันนี้ฉันไปทำงานที่สวนสัตว์ วันนี้มิยาโกะจังมาทานข้าวที่บ้าน"
พอเจอมิยาโกะก็จะบอกว่า "ฉันส่งจดหมายไปแล้วนะ"
มิยาโกะก็จะบอกว่า "ฉันจะรอ"
และในตอนท้ายของเรื่อง มิยาโกะก็คงจะบอกตัวเองว่า (เดานะค่ะ) คนที่เค้าจะอยู่ด้วยได้ ไม่จำเป็นต้องเก่ง หรือต้องเข้าสังคมอย่างคุณคาวาฮาระ แค่คนที่เค้าสามารถให้การดูแลและตัวเองก็รู้สึกสุขใจ และคนนั้นก็ไม่มีพิษมีภัยกับใคร และรักษาสัญญาก็คือ เทรุอากิ
หากใครยังไม่ได้ดูก็พอจะหาดูได้ที่
http://www.thaimtb.com/forum/viewtopic.php?f=71&t=53683&start=0
http://www.thaipbs.or.th/JapanSeries1/
http://movie.sanook.com/drama/drama_15353.php
http://wiki.d-addicts.com/Boku_no_Aruku_Michi
-->
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น