ข้ามไปที่เนื้อหาหลัก

ชะเอมเทศ ผิวขาวกระจ่างอย่างเป็นธรรมชาติ

 ชะเอมเทศ (Licorice)

ชะเอมเทศ

ในปัจจุบันผู้ที่ผิวหมองคล้ำหรือมีปัญหาเรื่องจุดด่างดำ ฝ้า กระต่างๆ จะต้องมองหาผลิตภัณฑ์ที่ช่วยให้ผิวขาวใสซึ่งหลายๆท่านคิดว่าต้องใช้สารเคมีเท่านั้นผิวจึงจะขาวขึ้น

วันนี้เรามารู้จักสารจากพืชธรรมชาติที่จะช่วยแก้ไขปัญหาผิวหมองคล้ำกันดีกว่าซึ่งก็คือ “ชะเอมเทศ” นั่นเอง สำหรับใครที่เคยทานยาอมสมุนไพรแก้เจ็บคอคงจะคุ้นเคยกับชะเอมเทศเป็นอย่างดีนั่นก็เพราะชะเอมเทศเป็นสมุนไพรที่มีรสหวานชุ่มคอ จึงมักจะนิยมใช้ในสูตรยาอมแก้เจ็บคอแต่ชะเอมเทศไม่ได้มีประโยชน์แค่นั้นนะคะ ในเรื่องความสวยงามโดยเฉพาะความขาวกระจ่างใสชะเอมเทศช่วยได้ค่ะ


ชะเอมเทศ (Licorice) มีชื่อวิทยาศาสตร์ว่า Glycyrrhiza glabra มีถิ่นกำเนิดในยุโรปและเอเชีย จัดเป็นไม้พุ่มสูงประมาณ 1-2 เมตร มีรากขนาดใหญ่จำนวนมาก ลำต้นมีขนสั้นๆ ออกดอกสีม่วงอ่อน ปัจจุบันมีการเพาะปลูกมากที่ประเทศสเปน อินเดีย อิหร่าน ตุรกี รัสเซียและจีน

ประโยชน์ทางสุขภาพและความงาม

1. ช่วยให้ผิวขาวกระจ่างใสอย่างเป็นธรรมชาติ

          ในวงการความสวยงามชะเอมเทศโดดเด่นในเรื่องให้ความขาวกระจ่างใสกับผิว เนื่องจากมีสารสำคัญหลายตัว เช่น Glycyrrhizin, Glycyrrhetinic acid, Glabridin และสารกลุ่มฟลาโวนอยด์อื่นๆ ซึ่งสารกลุ่มนี้มีสรรพคุณลดการสร้างเม็ดสีเมลานินโดยยับยั้งการทำงานของเอนไซม์ไทโรซิเนส (tyrosinase) จึงช่วยให้ผิวมีความขาวกระจ่างใสมากขึ้น ช่วยลดเลือนจุดด่างดำ การเกิดฝ้า กระ และผิวหมองคล้ำได้เป็นอย่างดีโดยสารกลุ่มนี้จะพบมากในส่วนรากของชะเอมเทศ

          ตามปกติผิวหนังของคนเราจะมีสีผิวที่แตกต่างกันตามลักษณะของเชื้อชาติและกรรมพันธุ์แต่สีผิวของเราก็สามารถเปลี่ยนเป็นสีที่เข้มขึ้นได้ โดยเกิดจากปัจจัยภายนอกอื่นๆเป็นตัวกระตุ้น เช่น แสงแดด รังสีอัลตร้าไวโอเลตหรือรังสียูวี การที่สีผิวของเราเข้มขึ้นนั้นเกิดจากเม็ดสีเมลานินถูกสร้างเพิ่มมากขึ้น โดยกระบวนการสร้างเม็ดสีเมลานินเรียกว่า กระบวนการเมลาโนจีเนซิส (Melanogenesis) มีเซลล์เมลาโนไซต์เป็นตัวสร้างเม็ดสีเมลานินและมีเอนไซม์ไทโรซิเนส (tyrosinase) เป็นตัวเร่งปฏิกิริยาซึ่งหากเอนไซม์ไทโรซิเนสทำงานมากก็จะส่งผลให้สีผิวของเราเข้มขึ้นรวมถึงเกิดความผิดปกติทางผิวหนัง เช่น จุดด่างดำ ฝ้า กระ เป็นต้น ในวงการเครื่องสำอางจึงต้องมองหาสารที่ช่วยยับยั้งการทำงานของเอนไซม์ไทโรซิเนสเพื่อให้ผิวคงความกระจ่างใสอยู่เสมอ ซึ่งสารที่ช่วยยับยั้งการทำงานของเอนไซม์ไทโรซิเนสนั้น มีทั้งเป็นสารเคมีและสารที่สกัดมาจากพืชธรรมชาติและจากงานวิจัยพบว่าสารสกัดจากชะเอมเทศนั้นสามารถช่วยยับยั้งการทำงานของเอนไซม์ไทโรซิเนสได้เป็นอย่างดีจึงช่วยให้ผิวขาวกระจ่างใส ลดเลือนฝ้า กระ และจุดด่างดำได้อย่างตรงจุด

            สำหรับการนำสารสกัดชะเอมเทศมาใช้ในการผลิตเครื่องสำอางนั้นจะต้องนำรากของชะเอมเทศมาผ่านกรรมวิธีการสกัดด้วยตัวทำละลาย (solvent extraction) ให้ออกมาเป็นสารสกัดเข้มข้นที่เรียกว่า Licorice extract จากนั้นจึงนำสารสกัดที่ได้มาผสมในสูตรสินค้าเพื่อผลิตออกมาจำหน่ายในรูปแบบของครีมลดเลือนฝ้า กระ หรือโลชั่นเพื่อผิวขาวตามที่เราพบเห็นในท้องตลาดทั่วไปซึ่งราคาก็จะแตกต่างกันไปตามความเข้มข้นของสารสกัดที่ใช้ในแต่ละยี่ห้อ แต่สำหรับใครที่ยังไม่ต้องการซื้อเครื่องสำอางสำเร็จรูปมาใช้เราก็มีสูตรพอกผิวแบบง่ายๆมาแนะนำนะคะ

สูตรผิวกระจ่างใสด้วยมาส์กชะเอมเทศ

มาส์กชะเอมเทศ

ส่วนผสม

  1. ผงชะเอมเทศ สามารถหาซื้อได้ตามร้านขายสมุนไพรทั่วไปแต่ต้องเป็นส่วนของรากนะคะ
  2. น้ำสะอาด

วิธีทำ นำผงชะเอมเทศ 1-2 ช้อนโต๊ะ ค่อยๆเติมน้ำและคนให้เข้ากันโดยให้มีความข้นพอเหมาะที่จะพอกผิวหน้าได้ สามารถปรับปริมาณของผงชะเอมเทศและน้ำได้ตามความชอบ จากนั้นนำมาพอกที่หน้าทิ้งไว้ 3-5 นาทีแล้วล้างออกด้วยน้ำสะอาด ทำเป็นประจำสัปดาห์ละ 1-2 ครั้งจะช่วยให้ผิวกระจ่างใสขึ้นอย่างเป็นธรรมชาติ สามารถใช้ได้ทั้งผิวหน้าและผิวกาย

คำแนะนำ สำหรับสูตรที่แนะนำในเบื้องต้นเป็นการใช้วัตถุดิบธรรมชาติไม่ได้ผ่านการสกัดให้มีความเข้มข้นสูงดังนั้นผลลัพธ์หลังการใช้งานผิวจะค่อยๆกระจ่างใสซึ่งขึ้นอยู่กับสภาพผิวของแต่ละบุคคลแต่รับรองว่าปลอดภัยไร้สารเคมีแน่นอน

2. ชงดื่มเป็นชาสมุนไพรเพื่อสุขภาพ

ชาชะเอมเทศ

รากของชะเอมเทศมีกลิ่นหอมอ่อนๆ รสหวานออกขมเล็กน้อย นิยมนำรากชะเอมเทศแห้งมาชงดื่มเป็นชาสมุนไพรช่วยให้ชุ่มคอ ขับเสมหะและยังช่วยบำรุงร่างกาย บำรุงหัวใจให้แช่มชื่น

3. ประโยชน์ทางยา 

ประโยชน์ทางยาของชะเอมเทศ


ส่วนของเนื้อในรากของชะเอมเทศมีสีเหลืองอ่อน ผิวเรียบเป็นเส้นใย รสหวานชุ่ม ออกขมเล็กน้อย มีกลิ่นหอมอ่อนๆ นิยมใช้เป็นตัวยาในตำรับยาแก้ไอ ช่วยให้ชุ่มคอ ขับเสมหะ แก้คอแห้ง รวมถึงใช้ผสมในตำรับยาที่ช่วยบำรุงร่างกาย แก้อ่อนเพลีย นอกจากนี้ชะเอมเทศยังนิยมใช้เป็นตัวยาชูรส ชูกลิ่นและแต่งสีเนื่องจากสามารถช่วยแต่งกลิ่นแต่งรสสำหรับยาที่มีรสขมรับประทานยากให้รับประทานได้ง่ายยิ่งขึ้น ตำรับยาสมุนไพรที่มีชะเอมเทศเป็นส่วนประกอบหลักคือ ยาอำมฤควาที ประกอบด้วย โกฐพุงปลา เทียนขาว ลูกผักชีลา เนื้อลูกมะขามป้อม เนื้อลูกสมอพิเภก หนักสิ่งละ 1 ส่วน ชะเอมเทศหนัก 5 ส่วน จัดอยู่ในยารักษากลุ่มทางเดินหายใจ บรรเทาอาการไอและขับเสมหะ มีลักษณะทั้งในรูปแบบผงและแบบลูกกลอน

ข้อควรระวังในการใช้รากชะเอมเทศ ผู้ป่วยความดันโลหิตสูงไม่ควรใช้ยาหรือผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนประกอบของรากชะเอมเทศในปริมาณสูงติดต่อกันเป็นระยะเวลานานเพราะจะทำให้ระดับโพแทสเซียมในเลือดต่ำจนเกิดภาวะความดันโลหิตสูงขึ้นได้

เอกสารอ้างอิง

  1. ฐานข้อมูลเครื่องยาสมุนไพร คณะเภสัชศาสตร์ มหาวิทยาลัยอุบลราชธานี. “ชะเอมเทศ”.  [ออนไลน์].  เข้าถึงได้จาก: http://www.thaicrudedrug.com [09 ต.ค. 2020].
  2. บัญชียาจากสมุนไพรในบัญชียาหลักแห่งชาติ คณะเภสัชศาสตร์ มหาวิทยาลัยศิลปากร. “ยาอัมฤควาที”.  [ออนไลน์].  เข้าถึงได้จาก: http://www.pharmacy.su.ac.th [17 ธ.ค. 2020].
  3. ปองทิพย์ สิทธิสาร, วีณา นุกูลการ. ภาควิชาเภสัชวินิจฉัย คณะเภสัชศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล. “สมุนไพรแก้ไอ”.  [ออนไลน์].  เข้าถึงได้จาก: http://www. pharmacy.mahidol.ac.th [17 ธ.ค. 2020].
  4. มหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช. (2558). เอกสารการสอนชุดวิชาเภสัชกรรมแผนไทย 2. พิมพ์ครั้งที่ 1.  นนทบุรี : สำนักพิมพ์มหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช.
  5. เวสารัช เวสสโกวิท. “แสงแดดกับเม็ดสี”. สถาบันโรคผิวหนัง. [ออนไลน์]. เข้าถึงได้จาก: http://www. http://inderm.go.th [15 ธ.ค. 2020].
  6. Alonso, J. Tratado de Fitofármacos y Nutracéuticos. Barcelona: Corpus, 2004, p: 905-911 (633.8 ALO)
  7. Bruneton J. Farmacognosia. Zaragoza: Ed. Acribia, 2001; p: 681-686 (651*1 BRU).
  8. Council of Europe. Plants preparations used as ingredients of cosmetic products. Strasbourg Cedex: Council of Europe Publishing, 1994; p: 154-157 (61*8 PAT).
  9. N. Radhakrishnan, M. Phil, A. Gnanamani, Ph.D., S. Sadulla, Ph.D. EFFECT OF LICORICE (Glycyhrriza glabra Linn.) A SKIN-WHITENING AGENT ON BLACK MOLLY (Poecilia latipinnaa). J. Appl. Cosmetol. 23, 749-758 (October/December 2005).
  10. Phawothai Phasanasophon, M.Sc. (Physiology). (2015). Journal of Phrapokklao Nursing College Vol.27 No.1 September 2015 - February 2016.
  11. Praphaiphit Insain, Inhibition of Melanogenesis from Thai Berries. EAU Heritage Journal Science and Technology. Vol. 12 No. 2 May-August 2018.
  12. Saeedi M, Morteza-Semnani, Ghoreishi MR. The treatment of atopic dermatitis with licorice gel. J of Dermatological Treatment, 2003; 14: 153-157.
  13. Wenyuan Zhu and Jie Gao. (2008). The Use of Botanical Extracts as Topical Skin-Lightening Agents for the Improvement of Skin Pigmentation Disorders, Journal of Investigative Dermatology Symposium Proceedings. Volume 13.
  14. Zuidhoff H.W. & van Rijsbergen J.M. Whitening Efficacy of Frequently Used Whitenning Ingredients. C&T, 2001; 116(1): 53-59 (ref. 4333).
  15. รูปจาก www.freepik.com , www.pixabay.com. Accessed October 9,2020.
เรียบเรียงโดย ทีมงานแพทย์แผนไทย Handout2009

ความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

การปักชำ ชาฮกเกี้ยน หรือ ชาดัด เพื่อปลูกเป็นแนวรั้ว

ปักชำ ชาฮกเกี้ยน เพื่อปลูกเป็นแนวรั้ว       ชาฺฮกเกี้ยน หรือบางคนเรียกว่า ชาดัด เข้าใจว่าเป็นเพราะนิยมนำมาดัดเป็นรูปต่างๆ เช่น รูปสัตว์ต่างๆ และยังนิยมนำมาปลูกเป็นแนวรั้วด้วย และตามเกาะกลางถนนทั่วไป ตัดแต่งเป็นเหลี่ยม ขั้นบันได ดูแล้วก็สวยดี                วันนี้จะมาพูดถึง วิธีการชำ ชาดัด หรือ ชาฮกเกี้ยน ตั้งใจจะปักชำมาหลายวัน โดยเตรียมแก้วกาแฟพลาสติกที่ได้จากที่เพื่อนๆพี่ๆน้อง หลานๆ กินกาแฟแล้วช่วยกันเก็บมาให้ เป็นการ reuse พลาสติก โดยครั้งนี้ ปักชำประมาณ 50 ต้น           วิธีการปักชำ ชาฮกเกี้ยน หรือ ชาดัด ใช้วิธีการชำด้วยกะปิ   ไม่ใช้สารเคมี โดยนำกิ่งชาที่ตัดเป็นท่อนๆ ยาวประมาณ 15-20 ซม. มาแช่ในน้ำที่ละลายกะปิก่อน แช่ไม่นานนะคะ ประมาณ 1-2 ชั่วโมง         จากนั้น นำกิ่งชาดัดที่แช่น้ำกะปิแล้ว มาปักลงแก้วกาแฟพลาสติกซึ่งใส่แกลบดำไว้เรียบร้อยแล้ว โดยรดน้ำเพื่อให้แกลบยุบตัวก่อน        หลังจากปักลงแก้วแล้ว ควรรดน้ำให้ชุ่ม นำใส่ถุงพลาสติกคลุม อบเอาไว้ เพื่อรักษาความชื้น และให้แสงผ่านเข้าไปได้  ครั้งนี้พอดีมีพลาสติกกันกระแทกเก่าๆ อยู่ เลยนำมาใช้คะ     เตรียมกรอกแกลบดำใส่แ

น้ำหมักชีวภาพ สูตรเร่งดอกเร่งผล คุณก็ทำได้...

    จากที่ศึกษาการทำน้ำหมกชีวภาพหลายๆสูตร หนึ่งในที่ทดลองหมักใช้ดู ก็คือสูตรเร่งดอกเร่งผล วัตถุดิบที่เป็นส่วนผสม ก็หาได้ง่าย ถ้าไม่ได้ปลูกเองก็จำเป็นต้องหาซื้อในตลาดไปก่อน แต่ผู้ที่มีสวนอยู่แล้ว วัตถุดิบนั้นหาได้ไม่ยากเลย     ขอนำรูปมาให้ดู ซึ่งเป็นผลจากการใช้น้ำหมักเร่งดอกเร่งผล ทุกอย่างปลูกบนระเบียงค่ะ                รูป 1. ถั่วฝักยาวสีแดง พันธุ์น่าน ออกฝักแล้ว ทานดิบอร่อยมาก รสหวาน          รูป 2. พริกชี้ฟ้า ก็ได้ผลออกมาแล้ว  ปลูกในกระถาง ความสูงไม่ถึงฟุต               รูป 3. อัญชันสีน้ำเงิน ปลูกในแก้วกาแฟ ความสูงไม่ถึงฟุต ก็ออกดอกแล้ว       คราวนี้มาพูดถึงส่วนผสมการทำน้ำหมักสูตรเร่งดอกเร่งผลกันบ้าง ก็จะมี 1.กล้วยน้ำว้าสุก ทั้งเปลือก        1 กก. 2. ฟักทองแก่  ทั้งเปลือกและเมล็ด    1 กก. 3. มะละกอสุก ทั้งเปลือกและเมล็ด     1 กก. 4. น้ำตาลทรายแดง(โอทึ้ง) หรือ กากน้ำตาล1 กก. วิธีทำ   1.  นำผลไม้ทั้งหมดมาหั่นเป็นชิ้นเล็กๆ ใส่ลงในถังหมัก   2.  ใส่น้ำตาลทรายแดง(โอทึ้ง) หรือ กากน้ำตาล คลุกเคล้าให้เข้ากัน ปิดฝา หมักทิ้งไว้ 15 วัน   3.  เติมน้ำ 10 ลิตร หมักต่ออ

แปลงปลูกผัก สำหรับผู้ที่มีเนื้อที่น้อย แต่รักที่จะปลูก..

                                  รูป 1. กว้าง 42 ซม. ยาว 1.80 ม. สูง 1.95 ม.      หลังจากที่ได้ศึกษาข้อมูลทางเกษตรมาหลายเดือน ทดลองปลูกผักหลายอย่าง รวมทั้งไม้ดอก เพาะกล้าไม้ยินต้น ลองผิดลองถูกกับเนื้อที่บนระเบียงอันน้อยนิด แถมยังต้องมีเนื้อที่ข้างล่างวางถังน้ำหมักชีวภาพอีกหลายๆ สูตร หลายถัง ก็ทำกันไปด๊าย.. :)      ก็พยายามที่จะทำแปลงผัก ที่สามารถปลูกผักที่ต้องอาศัยค้างได้ เช่น ถั่วฝักยาว ถั่วพู แตงกวา เป็นต้น คิดแล้วก็ได้รูปแบบออกมาอย่างในรูป โดยอุปกรณ์ที่ใช้ทำจากไม้ไผ่ และบุด้วยถุงกระสอบ จากรูป1. แปลงนี้ กว้าง 42 ซม. ยาว 1.80 ม. สูง 1.95 ม. แปลงนี้ทำใช้เองบนระเบียงไม้ชั้น 2                                    รูป 2. กว้าง 42 ซม. ยาว 1.20 ม. สูง 1.85 ม. ส่วนรูป 2. เป็นแปลงที่มีขนาดความยาวน้อยกว่ารูปแรกค่ะ  ขนาดดูจะกระทัดรัดกว่า  กว้าง 42 ซม. ยาว 1.20 ม. สูง 1.85 ม.       ทั้ง 2 ขนาดสามารถนำไปตั้งที่ระเบียงบ้าน หรือทาว์นเฮาส์ หรือคอนโดได้ ขึ้นอยู่กับขนาดเนื้อที่ค่ะ     จากที่ทำขึ้นมานี้ใครเดินผ่านไปมาหน้าบ้าน ก็สนใจบอกว่าสวยดี  ก็เลยคิดว่าอาจจะมีผู้สนใจซื้อไปปลูกผัก